วันเสาร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2554

Semantic Relation: Synonymy


ผู้เรียนภาษาหลายคนคงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าการใช้พจนานุกรมนั้นสำคัญมาก เพราะการเรียนรู้ภาษาใดๆ เราจำเป็นที่จะรู้ความหมายของคำที่ปรากฏอยู่ในประโยค และสิ่งที่ช่วยให้เรารู้ความหมายของคำได้ คือ พจนานุกรมซึ่งช่วยให้เราเลือกใช้คำได้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเรียนภาษาต่างประเทศ

จากประสบการณ์ส่วนตัวในการเรียนภาษาอังกฤษ เมื่อจำเป็นต้องเลือกใช้คำๆ หนึ่ง ให้เหมาะสม วิธีการเปิดหาคำศัพท์หลักเพื่อที่จะดูการใช้และคำที่มีความหมายคล้ายๆกัน นับว่าเป็นทางเลือกที่ดี เพราะคำที่มีความหมายคล้ายกันจะกลายมาเป็นตัวเลือกอีกตัว ซึ่งในส่วนของคำที่มีความหมายคล้ายกันนี่เอง เป็นตัวเลือกที่ช่วยให้เราใช้คำได้เหมาะสมมากที่สุด

พจนานุกรมทั่วๆไปหรือแม้แต่พจนานุกรมอิเล็กทรอนิกหรือ Talking Dictionary จะปรากฏคำหลักและคำที่มีความหมายคล้ายๆกัน โดยเรียกคำที่มีความหมายคล้ายกันว่า Synonym นั่นเอง ถ้าคำ A เป็น Synonym ของคำ B เราจะเรียกสภาพของความเหมือนนี้ว่า Synonymy ซึ่งตามแนวคิดของ Murphy (134: 2003) Synonym เป็นลักษณะของความสัมพันธ์ทางความหมาย (Semantic Relation) แบบหนึ่ง ซึ่ง Murphy ได้ให้ความหมายของ synonymy ว่า กลุ่มของคำที่มีความหมายเหมือนกันแต่มีรูป (Form) แตกต่างกัน และคำที่เป็น Synonym กันต้องสามารถแทนที่ในประโยคเดียวกันได้ด้วย เช่น

I would like to buy this book

I would like to purchase this book

จากประโยคในภาษาอังกฤษนี้จะเห็นได้ว่า buy และ purchase มีรูป (form) ที่แตกต่างกัน แต่มีความหมายเดียวกันคือซื้อ และยังสามารถใช้แทนในประโยคที่มีใจความเดียวกันได้ ดังนั้นคำว่า buy และ purchase จึงเป็น synonym กัน หรือในภาษาไทยที่เราพบในชีวิตประจำวัน เช่น

เธอไปรับประทานข้าวกับครอบครัวของเธอ

เธอไปกินข้าวกับครอบครัวของเธอ

เห็นได้ชัดเจนว่าคำว่า กิน และ รับประทาน สามารถใช้แทนในประโยคเดียวกันได้ เพราะมีความหมายเดียวกัน แต่ต่างกันที่รูป หรือ form นั่นเอง ทั้งสองคำนี้จึงเป็น synonym ซึ่งกันและกัน

จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างของคำที่มีความหมายเหมือนกันเท่านั้น แต่ลองคิดดูซิว่า...นอกจากเราจะสามารถพบเจอคำที่มีความหมายเหมือนแล้ว เราจะพบลักษณะของความสัมพันธ์ทางความหมายแบบอื่นๆ อีกหรือไม่?

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น