วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2554

Modifier III: คำขยายในภาษาอังกฤษ

บทความก่อนหน้านี้ได้กล่าวถึงความหมายและชนิดของคำขยายแล้ว บทความนี้จะกล่าวถึงการขยายคำในภาษาอังกฤษกันบ้าง

ในภาษาอังกฤษการขยายความหมายนั้นเราพบได้ทั่วไป ซึ่งการวางของคำขยายในภาษาอังกฤษจะมี 2 แบบคือ

1. การวางคำขยายไว้หน้าคำหลัก หรือที่เรียกว่า Attributive โดยการวางคำขยายไว้ในลักษณะนี้เป็นการแสดงให้เห็นว่าลักษณะที่ขยายคำหลักนั้น คงที่ถาวรไม่เปลี่ยนแปลง เช่น A big black dog. คือสุนัขสีดำตัวใหญ่ ซึ่งเป็นลักษณะที่ถาวรของสุนัขตัวนั้น ไม่ว่าจะเอาสุนัขตัวนี้ไปอาบน้ำหรือขัดยังไงสีดำก็ไม่หายไปไหน

2.การวางคำขยายไว้หลังคำหลัก หรือเรียกว่า Predicative การวางคำขยายในลักษณะนี้เป็นการบอกถึงความไม่ถาวรคืออาจจะเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้นและสามารถเปลี่ยนแปลงได้ เช่น The socks is dirty. คือถุงเท้าคู่นี้สกปรก ซึ่งเป็นลักษณะที่ไม่ถาวรเพราะเมื่อนำไปทำความสะอาดถุงเท้าก็จะสะอาดขึ้นได้

คราวนี้มาดูลักษณะการเรียงลำดับของคำขยายในภาษาอังกฤษที่เป็นทั้ง Attributive และ Predicative กันว่าจะเรียงลำดับอย่างไร

จากประโยค The three pocket-sized 2-week-old brown kittens จะมีการเรียงลำดับของคำขยายเป็น three> pocket-sized> 2-week-old> brown เมื่อเอาคำขยายเหล่านี้มาวิเคราะห์พบว่า

three เป็นคำขยายประเภท Numerical Quantity คือบอกจำนวนที่ชัดเจน

pocket-sized เป็นคำขยายประเภท Physical Property ที่กล่าวถึงลักษณะโดยทั่วไป

2-week-old เป็นคำขยายที่บอกถึงอายุคือ Age และ

Brown เป็นคำที่ขยายสีของคำหลัก หรือ Color

ดังนั้นการเรียงลำดับของคำขยายในประโยคนี้จะเป็น Numerical Quantity> Physical Property> Age> Color

อีกตัวอย่างหนึ่งคือ Five good smelly new white Lilly เมื่อนำวามิเคราะห์พบว่า

Five เป็นคำขยายประเภท Numerical Quantity คือบอกจำนวนที่ชัดเจน

Good เป็นคำขยายประเภท Value

Smelly เป็นคำขยายประเภท Physical Property ที่กล่าวถึงลักษณะโดยทั่วไป

New เป็นคำขยายที่บอกถึงอายุคือ Age

White เป็นคำที่ขยายสีของคำหลัก หรือ Color

การเรียงลำดับของคำขยายในประโยคนี้จะเป็น Numerical Quantity> Value> Physical Property> Age> Color

จากการวิเคราะห์ทั้งหมดเราจะเห็นได้ชัดว่าการเรียงคำขยายในภาษาอังกฤษมีการเรียงที่มีรูปแบบ และคำที่อยู่ติดกับคำหลักจะเป็นคำขยายสี ส่วนคำที่อบยู่ห่างจากคำหลักมาที่สุดคือคำขยายที่บอกปริมาณนั่นเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น